ส้ม (Orange) ยับยั้งและป้องกันมะเร็ง ประโยชน์และสรรพคุณมากมาย

7:09 PM

ส้ม (Orange)

ส้ม (Orange) เป็นผลไม้ที่โลกและธรรมชาติสรรสร้างให้เรามาได้ใช้ประโยชน์ และส้มมีสรรพคุณมากมาย ทั้งด้านอาหาร และยา ผลไม้ ในพืชตระกูลส้มจะมีสารต้านอนุมูลอิสระและช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันของร่างกาย อีกทั้งยับยั้งการเจริญเติบโตของก้อนเนื้อมะเร็งและทำให้ก้อนเนื้อนั้นกลับมาเป็นปกติ ในบรรดาผลไม้ทั้งหมด ส้มมีสารต้านอนุมูลอิสระมากที่สุด อีกทั้งยังมีสารเคมีของพืชอีกกว่า 170 ชนิด รวมถึงสารประกอบที่ทำให้เกิดสารสีเหลืองแดงและน้ำเงินในพืชรวมกว่า 60 ชนิด ซึ่งสารดังกล่าวสามารถลดการอักเสบของแผล และต่อต้านการเกิดก้อนเนื้อมะเร็ง อีกทั้งยังมีคุณสมบัติยับยั้งการแข็งตัวของเลือด ซึ่งเหตุผลทั้งหมดที่ทำให้การกินพืชในตระกูลส้ม และมานาวเป็นประจำทุกวัน จะช่วยลดอัตราเสี่ยงของการเกิดโรคมะเร็งได้มากกว่าร้อยละ 50 และลดความเสี่ยงต่อการเป็นลมได้ถึงร้อยละ 19 หากบริโภคเพิ่มเป็นพิเศษ

ส้ม (Orange)
ส้ม (Orange) ป้องกันมะเร็ง


ผลไม้ตระกูล ส้มที่หาได้ทั่วไป



  • ส้มซันคิสต์   มีรสชาติอร่อยเข้มข้น เปลือกมีกลิ่นหอม นิยมนำทั้งน้ำและเปลือกมาทำขนม เช่นคุกกี้ เค้ก หรือแยม
  • ส้มเขียวหวาน   มีรสชาติหวาน เหมาะสำหรับทานสด หรือคั้นดื่ม เพราะเปลือกบางทำให้คั้นได้ง่าย
  • ส้มจุก   มีรสชาติและสีใกล้เคียงกับส้มเช้ง คือหวานอ่อนๆ จึงเหมาะสำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวาน หรือคนที่ต้องการลดน้ำหนัก
  • ส้มโอ   เป็นส้มที่สามารถนำมาทำอาหารได้ทั้งคาวและหวาน เช่น ยำส้มโอ ใส่ในข้าวยำน้ำบูดู ใส่ในสลัด หรือ ส้มโอลอยแก้ว ส่วนเปลือกของส้มโอที่มีสีขาวนุ่ม รสชาติขม อยู่ติดกับเปลือก สามารถนำมาเชื่อมได้
  • ส้มจี๊ด   คนไทยส่วนใหญ่ไม่นิยมทานเพราะเปรี้ยวมาก แต่คนจีนนิยมทาน โดยเฉพาะนำมาคั้นทำน้ำส้ม หรือนำมาอบแห้ง
  • ส้มจีน   เป็นส้มที่ทานสด และนิยมนำมาไหว้เจ้า เพราะคำว่าส้มในภาษาจีน จะฟังเหมือนคำว่าทอง และสีของส้มก็คล้ายทองด้วย
  • เลมอน   เป็นส้มที่มีรสชาติคล้ายมะนาว แต่จะมีรสหวานนิดๆ ส่วนใหญ่เป็นส้มที่ชาวต่างชาตินิยมนำมาทำอาหารแทนมะนาว เพราะไม่มีมะนาว หรือนำมาทำเป็นเครื่องดื่มในฤดูร้อน เพราะต่างประเทศไม่มีมะนาวนั่นเอง
  • มะนาว เป็นหนึ่งในตระกูลส้มที่ให้ความเปรี้ยวมากที่สุด นำมาปรุงอาหารได้สารพัด เช่น ยำต่างๆ ต้มยำ น้ำพริก รวมทั้งเป็นส่วนผสมในน้ำสลัด
  • มะกรูด   เป็นหนึ่งในตระกูลส้มชนิดเดียวที่ไม่ได้นำน้ำหรือความเปรี้ยวมาปรุงอาหาร เพราะส่วนใหญ่จะนำกลิ่นหอมจากเปลือกมะกรูดมาใช้มากกว่า เช่น ใส่ในแกงเทโพ แกงมัสมั่น หรือทำหน้าหมี่กรอบ ส่วนน้ำมะกรูดนิยมนำมาทำแชมพูสระผม
ผลไม้จำพวกส้มส่งผลดีต่อร่างกายมนุษย์ ทั้งนี้จากรายงานการวิจัยชิ้นหนึ่งที่มีหลักฐานที่ทำให้เชื่อว่า ผลไม้ตระกลูส้มสามารถลดอัตราเสี่ยงของการเป็นโรคเกี่ยวกับเลือดเลี้ยงหัวใจ โรคอ้วน และเบาหวานลงได้ ถือเป็นเรื่องที่ดีสำหรับคนไทย เพราะเมืองไทยมีส้มมากมายหลายชนิด ให้เลือกบริโภค แถมยังช่วยชาวสวนส้มให้มีรายได้


ประโยชน์ของ ส้ม


1. ส้ม เป็นผลไม้นางเอก ที่มีสารไฟโตนิวเทรียนต์สูงมาก ซึ่งทำหน้าที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ รวมถึงสารกลุ่มฟลาวาโนนส์ สารแอนโธไชยานินส์ สารโพลีฟีนอลส์ และวิตามินซี ที่ช่วยทำให้ผิวสวยกระจ่างใส ส้ม มีคอลลาเจน ช่วยซ่อมแซมส่วนสึกหรอของร่างกาย ช่วยให้ผิวมีความยืดหยุ่น ไม่แห้งแตก และช่วยสมานแผลหลังผ่าตัด แผลไฟไหม้ ให้หายเร็ว และแผลเรียบเนียนขึ้น

2. ส้ม มีแคลเซียมและวิตามินดี แก่ร่างกาย มากพอๆ กับนม และแคลเซียมจะไปเสริมสร้างกระดูก แต่ถ้าไม่มีวิตามินดี ร่างกายจะไม่สามารถดูดซึมแคลเซียมจากอาหารได้ นอกจากนี้ส้มยังมีวิตามินซี ซึ่งจะช่วยเพิ่มกระบวนการดังกล่าวอีกด้วย แต่พึงเข้าใจด้วยว่า กรดอะซีติกในส้ม อาจทำลายสารเคลือบฟันได้ จึงไม่ควรแปรงฟันภายในหนึ่งชั่วโมงหลังจากทานส้มหรือดื่มน้ำส้ม

3. ส้ม มีสารฟลาโวนอยด์ ช่วยป้องกันการอักเสบ ช่วยป้องกันโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ และป้องกันเลือดจับตัวเป็นก้อน ยิ่งไปกว่านั้นส้มยังช่วยป้องกันและรักษาเลือดออกตามไรฟัน และมีคุณสมบัติช่วยล้างพิษในร่างกาย

4. เปลือกของ ส้ม มีสารมหัศจรรย์อยู่มากมาย และหนึ่งในนั้นคือการ Polymethoxylated Flavones (PMFs) และสาร D-Limonene ซึ่งช่วยลดคอเลสเตอรอล ปรับระดับน้ำตาลในเลือด และกระตุ้นการกรองสารพิษของตับ นอกจากนี้จากการศึกษายังชี้ว่า เม็ดสีในส้มเขียวหวานจะช่วยลดคอเลสเตอรอลชนิดเลว (LDL) โดยไม่ส่งผลต่อคอเลสเตอรอลชนิดดี (HDL)

5. ตำรับจีนมักเสิร์ฟเปลือกส้ม คู่กับอาหารเนื้อสัตว์ เพื่อย่อยอาหารที่มีไขมันสูง บางตำราแนะนำให้เริ่มวันใหม่ด้วยน้ำเลมอน 12 ออนซ์ ผสมกับน้ำกรองแล้วที่อุณหภูมิห้อง จะช่วยชะล้างของเสียในระบบย่อยอาหารและลำไส้ได้ เพราะมีฤทธิ์เป็นกรดอ่อน ๆ

6. ส้ม อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งจะช่วยปกป้องแก้วตาจากโรคต้อกระจก และจากการศึกษายังพบว่า สารนี้สามารถป้องกันมะเร็งลงได้ การบริโภควิตามินอีและซีในปริมาณมาก จะช่วยป้องกันโรคต้อกระจกได้ แม้แต่ในกลุ่มผู้ที่มีความเสี่ยงเป็นโรคนี้สูง

7. ส้ม มีสารโฟเลต ซึ่งช่วยให้สมองหลั่งฮอร์โมนซีโรโทนิน อันเป็นสารแห่งความสุข กลิ่นของผลไม้ตระกูลส้มสามารถทำให้เบิกบานได้ สูดดมกลิ่นได้ ทานได้


เรียบเรียง: รู้ทันมะเร็ง
ข้อมูลจาก mthai.com

Share this :


Previous
Next Post »
0รู้ทันโรคมะเร็ง ป้องกันด้วยสมุนไพรไทย



Advertisment